ภาพรวมเกมเพลย์ Runeterra Reforged
ด้วยการกลับสู่ดินแดนรูนเทอร์ราในครั้งนี้ เราก็ได้นำคนหน้าคุ้นหลายคนกลับมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลย ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงคอมพ์น่าเล่นบางส่วนซึ่งได้ลุกขึ้นผงาดขึ้นท่ามกลางพายุของ Convergence ถ้าคุณอยากฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก Monsters Attack! ก็กดคลิกเข้าไปอ่านที่ลิงก์ได้เลย! เอาล่ะ มาเริ่มกันด้วยคอมพ์เมนใหม่ของผมเลยดีกว่าหรือก็คือคอมพ์ All Void Baron!
Void: 3/6/8
ในฐานะคุณสมบัติอัญเชิญเน้นเล่นเดี่ยวของเรา การที่คุณจะเล่น Void นั้นต้องใช้ทั้งความทุ่มเทแบบสุดตัว รวมถึงการเพิ่มเลเวลอย่างรวดเร็ว โดยแชมเปี้ยน Void จะอัญเชิญไข่ Void ออกมา เมื่อทีมของคุณสูญเสียพลังชีวิตไปมากกว่า 40% ไข่จะฟักตัวออกมากลายเป็นสิ่งมีชีวิตวอยด์ พร้อมกระแทกให้ยูนิตที่อยู่ใกล้เคียงลอยขึ้นบนอากาศ ระดับดาวของยูนิต Void จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตและพลังเวทของสิ่งมีชีวิตวอยด์ขึ้น 25% คุณจะสามารถอัญเชิญยูนิตเหล่านี้ได้เมื่อไปถึงจุดเปลี่ยนคุณสมบัติ Void ทั้งสามระดับ:
(3) Void Remora
(6) Rift Herald
(8) Baron Nashor
คอมพ์นี้ต้องใช้ยูนิต Void ที่มีทั้งหมดเพื่อใช้งาน:
Malzahar: ระดับ 1 Sorcerer
Cho’Gath: ระดับ 1 Bruiser
Kassadin: ระดับ 2 Bastion
Rek'Sai: ระดับ 3 Bruiser
Vel'Koz: ระดับ 3 Multicaster, Sorcerer
Kai’Sa: ระดับ 4 Challenger
Bel’Veth: ระดับ 5 Empress
เพื่อไปให้ถึง Void 8 และอัญเชิญเจ้าขาใหญ่ประจำเซ็ตอย่าง Baron คุณจำเป็นต้องพึ่ง Void Emblem ผ่านตัวเสริมพลังต่าง ๆ หรือไม่ก็จาก Tome of Traits และไหน ๆ คุณก็ต้องใช้แผนเร่งเลเวล 8 อยู่แล้ว ก็อย่าลืมหยิบตัวอย่าง Yasuo (Ionia Challenger) ในฐานะแครี่รองเพื่อเสริมตัวแครี่หลักของคุณอย่าง Kai’Sa ที่มีคุณสมบัติ Challenger เหมือนกันด้วยนะ Void Kai’Sa นั้นจะมีความสามารถคล้ายกับร่างในเซ็ต Gizmos & Gadgets ของเธอ แต่จะใช้มานาเยอะขึ้น และก็จะสเกลกับความเร็วโจมตีได้น้อยลง เพราะแบบนั้น Spear of Shojin และ Morellonomicon ก็จะเป็นไอเทมยอดนิยมของเธออย่างแน่นอน
ทว่าตัวเอกตัวจริงของคุณสมบัติ Void นั้นคือจักรพรรดินีอย่าง Bel’Veth ต่างหาก สกิลของ Bel'Veth - Endless Banquet จะทำให้เธอฟาดฟันศัตรูที่มีพลังชีวิตน้อยที่สุดแบบรัว ๆ การฟันแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายกายภาพรวมถึงความเสียหายจริงจาก 1% ของพลังชีวิตสูงสุดเป้าหมาย แต่พลังขั้นสุดยอดของเธอนั้นมาจากร่างที่แท้จริงของเธอต่างหาก คุณสมบัติ Empress ของ Bel'Veth ทำให้เมื่อเธอสังหารศัตรู เธอจะทิ้งปะการัง Void ที่เธอสามารถกลืนกินได้เอาไว้ การกลืนกินครั้งแรกจะเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นร่างที่แท้จริง เพิ่มพลังชีวิตสูงสุดและสร้างความเสียหายเล็กน้อยจากพลังชีวิตสูงสุดของเธอเป็นความเสียหายเวทรอบตัว การกลืนกินครั้งถัด ๆ ไปจะฟื้นฟูพลังชีวิตเล็กน้อยและสร้างความเสียหายในปริมาณเท่ากัน
Noxus (3/6/9)
ด้วยพลังแห่ง Noxus เมื่อคุณชนะการต่อสู้กับผู้เล่น คู่ต่อสู้ของคุณก็จะถูกพิชิต ยูนิต Noxus จะได้รับพลังชีวิต พลังเวท และพลังโจมตีเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้เล่นที่คุณได้พิชิตมา (อีกฝ่ายพ่ายแพ้คุณในการต่อสู้)
Samira: ระดับ 1 Challenger
Cassiopeia: ระดับ 1 Shurima, Invoker
Swain: ระดับ 2 Sorcerer, Strategist
Kled: ระดับ 2 Yordle, Slayer
Katarina: ระดับ 3 Rogue
Darius: ระดับ 3 Juggernaut
Sion: ระดับ 5 Bruiser
ผมมักจะชอบเล่น Noxus เป็นคอมพ์รีโรลหากไม่เจอ Spatula หรือตัวเสริมพลังที่สามารถช่วยเพิ่มคุณสมบัตินี้ไปจนสุดได้ ขอเพียงแค่มียูนิตหลักของ Noxus คุณก็สามารถ Slow Roll (สุ่มไม่ให้ทองต่ำกว่า 50 ทอง) ที่เลเวล 7 เพื่ออัปดาวแชมเปี้ยนราคา 3 ทองให้เยอะที่สุด ระหว่างนั้นก็หยิบ Ekko หรือ Aatrox มารอไว้สักสองสามตัวเพื่อไว้ใส่ตอนเลเวล 8 (ใช้ Garen หรือ Nasus แทนได้ก่อนถึงตอนนั้น) คุณจะต้องใช้งานยูนิต Noxus หกตัวจากด้านบน โดยมี Darius เป็นแครี่หลัก และมี Katarina เป็นตัวรองสำหรับใส่ไอเทมพลังเวทที่เหลือของคุณ
Noxian Guillotine ของ Darius มีสเกล AD ที่สูงมากและก็สามารถสร้างความเสียหายมหาศาลใส่หนึ่งเป้าหมาย แต่ถ้าหากเขาสามารถสังหารเป้าหมายได้ เขาก็จะร่ายสกิลใหม่อีกครั้งในทันที แต่ความเสียหายจะลดลง ดังนั้นอย่าลืมมอบไอเทมพลังโจมตีอย่าง Infinity Edge, Deathblade หรือ Giantslayer ควบคู่ไปกับ Bloodthirster ให้กับเขา เพื่อทำให้เขายังโดดเด่นและพร้อมโดดสับต่อไปได้ และเนื่องจากคุณต้องทุ่มแรงอย่างมากไปกับเรื่องดาเมจ ดังนั้นก็อย่าลืมเพิ่มคุณสมบัติ Juggernaut ไปอีกสักตัวเพื่อเสริมพลังป้องกันของคุณด้วย และแน่นอนว่าอย่าลืมมอบไอเทมพลังเวทให้กับ Katarina ในฐานะแครี่รองด้วยนะ
หากคุณโชคดีเจอ Sion ก็อย่าลืมเอาเขามาแทนที่ยูนิต Noxus ที่อ่อนแอกว่าด้วยล่ะ สกิล Glory in Death ของ Sion นั้นแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนเปิดใช้จะทำให้ Sion วิ่งชาร์จไปยังศัตรูที่อยู่ไกลที่สุดภายในระยะไม่กี่ช่อง สร้างความเสียหายกายภาพแก่ศัตรูทุกตัวที่ปะทะและสตันพวกเขา แต่เกียรติยศที่แท้จริงนั้นอยู่ที่เอฟเฟกต์ติดตัวของเขาต่างหาก: หลังจาก Sion ตาย เขาจะคืนชีพมาพร้อมกับพลังชีวิต 50% ซึ่งจะลดลงในแต่ละวินาที เขาจะไม่สามารถใช้งานสกิลได้ แต่จะไม่ได้รับผลเอฟเฟกต์ CC และได้รับความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น ทั้งสกิลของเขาและบัฟความเร็วโจมตีต่างก็ได้รับผลจากไอเทม AD แต่ส่วนมากคุณก็ควรให้ความสำคัญกับไอเทมป้องกันมากกว่า เพื่อที่ Sion จะสามารถขัดศัตรู กระทืบผ่านดง Honeyfruit และมีชีวิต (หรือตาย) ได้ต่อเนื่องวนไป
Piltover (3/6)
Piltover คือคุณสมบัติเก็บเงินที่คุณอาจจะอยากใช้ต่อไปแม้ว่าคุณจะได้เงินมาแล้วก็ตาม! คุณสมบัตินี้จะถูกผูกกับการอัญเชิญยูนิตอย่าง T-Hex เจ้าหุ่นที่จะเริ่มต้นจากการเป็น Raptor ตัวน้อย และได้รับ XP ในทุกครั้งที่คุณเอาชนะรอบมาได้ ถ้าคุณพ่ายแพ้ XP นั้นจะถูกฝากไว้ และถ้าหากคุณแพ้ไปเรื่อย ๆ XP ที่เก็บไว้ก็จะยิ่งมากขึ้น ทำให้คุณสามารถสร้าง T-Hex แสนทรงพลังได้ในทันทีเมื่อคุณชนะหลังจากแพ้ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน แม้ว่าการเฝ้าฟูมฟัก T-Hex ไปจนได้รับชนะจะเป็นรางวัลในตัวอยู่แล้ว (พวกมันโตไวมาก!) คุณก็ยังสามารถขาย T-Hex ได้ตลอดเวลาเพื่อรับสมบัติเท่ากับจำนวน XP ของมัน แต่คุณต้องเป็นคนไร้หัวใจสักแค่ไหนกันเชียวที่จะขาย T-Hex ที่คุณเลี้ยงมากับมือตั้งแต่ด่าน 2-1 ได้ลงคอ?! แต่ก็นะ พอดีผมเป็นคนไร้หัวใจ ดังนั้นผมจะตอบคำถามนี้ให้—การขาย T-Hex จะทำให้คุณสามารถโยกไปยังคอมพ์เลทเกมที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งยูนิต Piltover ได้ และแม้ว่าคุณจะส่งมันไปอยู่ในลานเศษเหล็ก แต่เจ้า T-Hex ก็จะยังรักคุณเสมอนะ
คุณต้องใช้ Piltover Emblem เพื่อไปให้ถึง Piltover 6 ซึ่งจะทำให้คุณได้รับรางวัลเพิ่มเติมในแต่ละชัยชนะที่ได้ และนี่ก็คือหน้าตาของเหล่าแชมเปี้ยนทั้ง 5 จากเมืองแห่งความก้าวหน้าของเรา:
Orianna: ระดับ 1 Sorcerer
Vi: ระดับ 2 Bruiser
Jayce: ระดับ 3 Gunner
Ekko: ระดับ 3 Zaun, Rogue
Heimerdinger: ระดับ 5 Yordle, Technogenius
Piltover 3 สามารถเพิ่มเข้าไปได้ในหลากหลายคอมพ์ แต่การเสริมกันที่ดีที่สุด (อย่างน้อยก็ตามเนื้อเรื่อง) คือการคอมโบกับ Zaun และใช้ Gunner (Jayce, Jinx และ Zeri) เป็นแครี่แนวหลังของคุณ Gunner เป็นแครี่ตีไกลแสนเรียบง่ายที่จะได้รับระยะโจมตีเพิ่มสองช่องจากคุณสมบัติ รวมถึงสแตค AD ที่เพิ่มในทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี ดังนั้นก็ปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยในคอมพ์ Piltover เมื่อคุณตั้งใจแล้วว่าจะพลิกการแพ้ต่อเนื่องให้กลายเป็นการมาถึงของหุ่นยักษ์ T-Hex แบบเท่ ๆ!
อย่าลืมเพิ่ม Bruiser เข้าไปในคอมพ์เพื่อเสริมความอึดถึกให้กับแนวหน้า และเพิ่ม Gunner (2/4/6) เข้าไปในกระดานจากนั้นก็รอชมดอกไม้ไฟได้เลย:
Tristana: ระดับ 1 Yordle
Jinx: ระดับ 2 Zaun
Jayce: ระดับ 3 Piltover
Zeri: ระดับ 4 Zaun
Senna: ระดับ 5 Shadow Isles, Redeemer
แน่นอน เราจะพูดถึง Piltover ไม่ได้ถ้าหากขาดเจ้าสมองโตตัวสั้นราคา 5 ทองของเราอย่าง Heimerdinger ยอร์เดิลสติเฟื่องของเราคนนี้มีคุณสมบัติเป็นของตัวเองในชื่อ Technogenius ที่จะทำให้เขาสามารถวาง Apex Turret ซึ่งสามารถพัฒนาได้ด้วยการซื้ออัปเกรดในร้านค้าในราคา 8 ทองต่อชิ้น Apex Turret สามารถถูกอัปเกรดได้ทั้งหมดสามครั้ง!
Shurima 3/5/7/9
เวลาแห่งการบูรณะอาณาจักร Shurima มาถึงแล้ว! เมื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติ Shurima Sun Disk จะถูกฟื้นฟูขึ้นมา เปล่งคลื่นพลังแสงแห่งชีวิตที่จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับยูนิต Shurima ตามช่วงระยะเวลา หลังจากได้รับคลื่นพลัง 2 ครั้ง ยูนิต Shurima ที่ถูกเลือกจะจุติ ได้รับพลังชีวิตและพลังเวทเพิ่มมากขึ้น เมื่อคุณไปถึงจุดเปลี่ยนคุณสมบัติที่สูงขึ้น จำนวนยูนิต Shurima ที่สามารถจุติได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น และพวกเขาก็จะจุติในตอนเริ่มต้นการต่อสู้ได้อีกด้วย การจุติได้สองครั้งหมายความว่าทีมไฟต์ช่วงท้ายเกมของคุณจะทรงพลังสุด ๆ เลยล่ะ!
และเหล่านี้ก็คือผู้ที่คุณจะสามารถร่อนทรายเพื่อค้นหาได้:
Renekton: ระดับ 1 Bruiser
Cassiopeia: ระดับ 1 Noxus, Invoker
Taliyah: ระดับ 2 Multicaster
Akshan: ระดับ 3 Deadeye
Nasus: ระดับ 4 Juggernaut
Azir: ระดับ 4 Strategist
K’Sante: ระดับ 5 Bastion
Shurima สามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบ คุณสามารถใช้งานแค่ Shurima 3 และเล่นเป็นหนึ่งแครี่หรือหนึ่งยูนิตสเกล AP ในแนวหน้า หรือ "ถ้าอยากให้จักรพรรดิพึงพอใจ" คุณก็สามารถรีบเลเวลและพยายามเล่นแบบ Shurima ล้วนโดยใช้ Azir เป็นตัวแครี่และมี Nasus เป็นแนวหน้าหลักของคุณ หากคุณไม่ได้ Shurima Emblem เลยสักอัน คุณก็ควรหยุดที่ Shurima 5 และเพิ่มตัวแนวหน้าเสริมเข้าไปอย่าง Jarvan IV เพื่อรับโบนัสจาก Strategist
สกิล Arise ของ Azir จะอัญเชิญทหารทรายขึ้นมาใกล้กับเป้าหมายปัจจุบันของเขา สร้างความเสียหายเวทในทุก ๆ ครั้งที่เขาโจมตี เขาสามารถอัญเชิญทหารทรายได้สูงสุดสี่ตัว หลังจากนั้นสกิลของเขาจะเปลี่ยนไปสั่งให้ทหารทรายที่อยู่บนสนามสร้างความเสียหายเวทแบบเบิร์สแทน เนื่องจากสกิลของเขาเป็นแบบนี้ Azir จึงต้องใช้เวลาระดับหนึ่งในการสร้างความเสียหาย ดังนั้นอย่าลืมเสริมแนวหน้าทรงพลังให้กับเขาด้วยนะ ไม่ว่าจะผ่านการใช้งาน Juggernaut หรือลงทุนไปกับไอเทมแทงค์ต่าง ๆ
Shurima ยังมาพร้อมกับ K’Sante ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน TFT ในฐานะยูนิตระดับ Legendary ผู้ครบเครื่องทั้งความแทงค์ CC และความสามารถในการส่งเป้าหมายให้ออกจากบอร์ดไปได้เลย ไว้เจอกันน้าา!
Path Maker ของ K'Sante ทำได้ครบจบในที่เดียว!
Yordle 3/6
เตรียมแต้มโรลให้พร้อมเพื่ออัปดาว Yordle แบบจัดหนักจากหนึ่ง สอง สาม ไปถึงสี่ดาว! Yordle จะได้รับความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นตามเลเวลดาว ยูนิต Yordle สามารถอัปได้ถึง 4 ดาว ทำให้ได้รับการอัปเกรดสกิลแบบเท่ไม่ไหว! ที่ Yordle 3 หากคุณมีแชมเปี้ยน 3 ดาวสามตัว แชมเปี้ยน Yordle 3 ดาวที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณจะเลื่อนขั้นไปเป็น 4 ดาว และที่ Yordle 6 แชมเปี้ยน Yordle ระดับ 3 ดาวของคุณก็จะเลื่อนไปเป็น 4 ดาวได้ถึงสองตัว!
เหล่านี้คือผู้ที่จะลงสนามให้กับคุณเมื่อคุณต้องการเรียกใช้เหล่าเพื่อนเกลอ Yordle ของเรา:
Tristana: ระดับ 1 Gunner
Poppy: ระดับ 1 Demacia, Bastion
Teemo: ระดับ 2 Multicaster
Kled: ระดับ 2 Noxus, Slayer
Heimerdinger: ระดับ 5 Piltover, Technogenius
เนื่องจากคุณสมบัตินี้สามารถคอมโบกับแชมเปี้ยน 3 ดาวจากคุณสมบัติไหนก็ได้ ทำให้คุณสามารถนำ Yordle 3 เข้าไปเพิ่มในคอมพ์รีโรลตัว 1 หรือ 2 ทองได้มากมาย ในตอนที่คุณ Hyperroll (โรลจนหมดตัว) เพื่อหายูนิตราคา 1 ทองที่เลเวล 5 ก็อย่าลืมมองหา Maokai ไว้ด้วยเพื่อจะได้คุณสมบัติ Bastion 2 ควบคู่ไปกับ Poppy Bastion คือคุณสมบัติแนวหน้าแสนเรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยความโลภ เพราะพวกเขาจะได้รับเกราะและต้านทานเวทซึ่งจะเพิ่มเป็นสามเท่าในช่วงไม่กี่วินาทีแรกของการต่อสู้
หากคุณจะ Hyperroll เพื่อยูนิตราคา 1 ทอง ก็อย่าลืมมองหา Tristana ให้เป็นแครี่หลักของคุณได้เลย เพราะสกิล Rapid Fire ของเธอจะมอบความเร็วโจมตีชั่วขณะ และทำให้การโจมตีของเธอระเบิด สร้างความเสียหายกายภาพเป็นวงกว้างเมื่อโดนตัวศัตรู แค่อย่าลืมเปิดใช้งานคุณสมบัติ Gunner ด้วยเพื่อดึงความสามารถของเธอให้ถึงที่สุด! การอัปเกรดระดับ 4 ดาวของเธอจะทำให้การโจมตีทุก ๆ 8 ครั้งสร้างความเสียหายกายภาพเพิ่มสองเท่า และจะชิ่งไปหากลุ่มศัตรูที่ใหญ่ที่สุดสร้างความเสียหายและระเบิดเป็นวงกว้าง สกิลของ Poppy อย่าง Steadfast Hammer ก็ได้ถูกเปลี่ยนจากสกิลความเสียหายเดี่ยวและมอบโล่ป้องกันให้กับตัวเองไปเป็นการกระแทกเป้าหมายของเธอไปยังกลุ่มศัตรูที่ใหญ่ที่สุด สร้างความเสียหายเวทตามเปอร์เซ็นต์พลังชีวิตสูงสุดของศัตรูและสตันศัตรูทั้งหมดที่ได้รับผล
Targon + Slayer
เอาล่ะ รู้น่าว่ามันโกงที่จะพูดถึงสองคุณสมบัติพร้อมกัน แต่ก็เป็นเพราะพวกเขาเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงท้ายเกมหรอกนะ Targon คือคุณสมบัติเสริมที่จะช่วยเพิ่มการฮีลและการมอบโล่ป้องกันให้กับพันธมิตรฝ่ายเดียวกันทั้งหมด ซึ่งทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากกับ Slayer แม้ว่าทั้งสองจะไม่มียูนิตใดเกี่ยวข้องกันเลยก็ตาม เพราะ Slayer จะได้รับค่าดูดเลือดต่อความเสียหายที่ทำได้และสร้างโบนัสความเสียหายที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าแก่ศัตรูที่มีพลังชีวิตต่ำกว่า 65% มาดูรายชื่อแชมเปี้ยนกันก่อนดีกว่า จากนั้นค่อยมาพูดถึงเรื่องการใช้งานพวกเขาทีหลัง
กำจัดความเจ็บปวดไปกับแชมเปี้ยนเหล่านี้:
Kayle: ระดับ 1 Demacia
Zed: ระดับ 2 Ionia, Rogue
Kled: ระดับ 2 Noxus, Yordle
Gwen: ระดับ 4 Shadow Isles
Aatrox: ระดับ 5 Darkin, Juggernaut
และฟื้นฟูขจัดความเจ็บปวดไปพร้อมกับชาว Targon เหล่านี้:
Soraka: ระดับ 2 Invoker
Taric: ระดับ 3 Bastion, Sorcerer
Aphelios: ระดับ 4 Deadeye
การใช้งานสองคุณสมบัตินี้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มผลดูดเลือดที่ได้รับจาก Slayer และทำให้คุณสามารถเปิดเกมรุกได้แบบเต็มสูบด้วย Gwen และ Aatrox ในช่วงท้ายเกมให้พยายามใช้งานตัว Bastion แนวหน้าอย่าง K’Sante (ระดับ 5) และ/หรือ Shen (ระดับ 4) เพื่อสนับสนุนแครี่ระยะประชิดของคุณ พูดถึงแครี่ระยะประชิดแล้ว Aatrox เองก็มีทริกเล็กน้อยซ่อนอยู่ในชุดเกราะของเขาด้วยนะ
World Ender ของ Aatrox จะทำให้เขาแปลงร่างเป็นเวลาหลายวินาทีหลังจากที่เขาร่ายสกิล ได้รับดูดเลือดต่อความเสียหายที่ทำได้และเปลี่ยนโบนัสความเร็วโจมตีทั้งหมดให้เป็นพลังโจมตี ในขณะแปลงร่าง การโจมตีของเขาจะหนักหน่วงขึ้นสุด ๆ และแม้ว่าการดูดเลือดจากสกิลและคุณสมบัติ Slayer จะช่วยเสริมให้ Aatrox สามารถสับศัตรูเป็นชิ้น ๆ ต่อไปได้เรื่อย ๆ แต่คุณสมบัติ Darkin ของเขาก็คือสิ่งที่จะเข้ามาเพิ่มความสามารถในการเอาตัวรอดไปอีกขั้น เมื่อไรก็ตามที่ Aatrox ตาย ดาบของเขา "The Darkin Blade" จะถูกสวมใส่ให้กับแชมเปี้ยนพันธมิตรที่อยู่ใกล้ที่สุดและมีช่องไอเทมว่างอยู่ หากแชมเปี้ยนพันธมิตรที่สวมใส่ดาบถูกสังหาร ดาบจะกลืนกินชีวิตพวกเขาและคืนชีพ Aatrox ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมพลังชีวิต 500 หน่วยบวกด้วยพลังชีวิตปัจจุบันของพันธมิตรนั้น
แต่ยังมีอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในคอมพ์แสนแพงนี้: นั่นก็คือ Senna ยูนิตระดับ Legendary อีกหนึ่งตัวจาก Shadow Isles ผู้มาพร้อมกับคุณสมบัติ Redeemer ที่ทำให้เมื่อไรก็ตามที่พันธมิตรได้รับโล่ป้องกัน Senna จะมอบความเร็วโจมตีให้พวกเขาไปตลอดทั้งการต่อสู้ เมื่อคุณร่ายโล่ป้องกันไปเรื่อย ๆ โบนัสความเร็วโจมตีนี้ก็จะยิ่งซ้อนทับกันมหาศาล และสกิล Dawning Shadow ของเธอก็จะช่วยเสริมความสามารถติดตัวนี้โดยการยิงลำแสงขนาดใหญ่ไปยังศัตรูที่อยู่ไกลที่สุด สร้างความเสียหายกายภาพแก่ศัตรูทุกตัวที่โดน และมอบโล่ป้องกันให้กับพันธมิตรด้วยเช่นกัน เมื่อจับคู่กับ Aatrox ที่สามารถเปลี่ยนความเร็วโจมตีให้กลายเป็นพลังฟาดฟันอันหนักหน่วง คุณก็จะได้รับบอร์ดท้ายเกมอันสุดจะทรงพลังเลยล่ะ บอกไว้ก่อนเลยว่า บอร์ดแบบนี้จะต้องทั้งแพงและก็ยากที่จะทำได้อย่างแน่นอน
Wanderer
คุณสมบัติสุดท้ายของเราในเย็นนี้ เช้านี้ กลางวันนี้ หรือเวลาใดก็ตามที่คุณอ่านบทความนี้อยู่ ก็คือคุณสมบัติพิเศษสำหรับ Ryze ที่มีชื่อว่า Wanderer คุณสมบัติ Wanderer จะทำให้สกิลของ Ryze อย่าง Realm Warp มีเอฟเฟกต์ใหม่ขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่คุณได้เดินทางเข้าไป
เมื่ออยู่ใน Ionia Ryze จะช่วยฮีลพันธมิตรโดยการ Realm Warp ต้นไม้วิญญาณของชาว Ionia เข้าสู่สนามรบ ใน Piltover Ryze จะ Realm Warp พื้นที่เฮ็กซ์เทคทรงพลังเข้ามาในสนามที่จะกันไม่ให้ยูนิตหนีออกไป หรือจะท่องไปยัง Shadow Isles ที่ซึ่ง Realm Warp จะนำพาเหล่ายูนิตฟื้นคืนกลับขึ้นมาจากความตาย (Baron เองก็นับนะ) ซึ่งสภาพพวกเขาก็ดูพอใช้ได้... เกือบ ๆ ล่ะนะ
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างให้คุณค้นพบใน Runeterra Reforged แต่คุณจะต้องลองพาตัวเองท่องไปพบกับสิ่งอื่นที่เหลือเองนะ จนกว่าจะพบกันใหม่ แล้วขอล่ะอย่ามาแย่งยูนิต Void ของผมไปเลย!
Runeterra Reforged ถือเป็นเซ็ตที่ครอบคลุมที่สุดที่เราเคยมีมา มันทั้งเต็มไปด้วยกลไกใหม่ และยังกระจัดกระจายไปด้วยเหล่าแชมเปี้ยนและคุณสมบัติมากมายจากทั่วทั้งรูนเทอร์รา ยังมีอะไรอีกมากมายให้ได้สำรวจกันที่นี่! หากคุณคันไม้คันมืออยากได้ยินเพิ่มเติมจากผู้พัฒนาคนโปรด ก็อย่าลืมเข้าไปอ่านบทความสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Monsters Attack! ของ Mort และแวะเข้าไปยัง Twitter ของเราเพื่อรับชมการเผยโฉมสิ่งต่าง ๆ ของ Runeterra Reforged ได้ในทุก ๆ วัน สุดท้ายนี้ เราเข้าใจดีว่าคุณเองก็มีงานยุ่งและอาจจะคอยมาตามดูตารางการปล่อยตัวของเราไม่ไหว เราจึงให้ฝ่ายศิลป์ของเราทำสิ่งนี้มาเพื่อคุณล่ะ!