ภาพรวมเกมเพลย์ Runeterra Reforged: Horizonbound

Bilgewater, Ixtal, รีเวิร์คไอเทม และประตูมิติภูมิภาคใหม่—ได้เวลาหยิบแว่นตาดำน้ำและกระโดดลงไปดูข้อมูลใหม่กันแล้ว!

พายุ Convergence ซึ่งเข้าถาโถมเปลี่ยนแปลงโลกรูนเทอร์รากำลังเข้าปะทะกับมวลอากาศอบอุ่น คอยระวังลมแรง ความชื้นสูง และแก๊งโจรสลัดไว้ให้ดี อ้ากกก! ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงคอนเทนต์เกมเพลย์ใหม่เกือบทั้งหมด วิธีการใช้งานของใหม่ตั้งแต่วันแรก (13 กันยายน) และแน่นอนว่ามาเล่นมุกโชว์พวกคุณกันสักหนึ่งตับ เอาล่ะออกเรือได้ จุดหมายแรกคือ Bilgewater!

Bilgewater: 3/5/7/9

เรียกใช้พลังแห่งคลังอาวุธไปกับ Bilgewater แชมเปี้ยนจาก Bilgewater จะติดเครื่องหมายใส่ศัตรูด้วยการโจมตีหรือการใช้สกิล หลังจากดีเลย์ชั่วครู่ กระสุนปืนใหญ่จะยิงใส่ศัตรูที่มีเครื่องหมาย สร้างความเสียหายกายภาพซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามความเสียหายที่ยูนิต Bilgewater ทำใส่ศัตรูที่ติดเครื่องหมาย ยิ่งลูกเรือของคุณเพิ่มขึ้น กระสุนปืนใหญ่ก็จะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น

รวบรวมแก๊งลูกเรือของคุณ:

• Illaoi: ระดับ 1 Bastion
• Graves: ระดับ 1 Gunner, Rogue
• Twisted Fate: ระดับ 2 Multicaster
• Nautilus: ระดับ 2 Juggernaut
• Miss Fortune: ระดับ 3 Strategist
• Nilah: ระดับ 4 Vanquisher
• Gangplank: ระดับ 5 Gunner, Reaver King

การทำให้แก๊งโจรสลัดเก้าคนที่มีความสนใจต่างกัน มีความแค้นต่อกัน และ/หรือมีความสัมพันธ์รักใคร่สุดซับซ้อนทำงานร่วมกันนั้นเป็นงานสุดท้าทาย แต่เชื่อผมเถอะ มันยิ่งยากกว่าเมื่อคุณต้องใช้ Bilgewater Emblem ถึง 2 ชิ้นและไปถึงเลเวล 9 เพื่อทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ เพราะงั้นหากคุณไม่ได้ High Roll ด้วยพลังตำนาน Urf (หรือ Poro) คุณก็ควรจะหยุดแค่ Bilgewater 7 และไปเน้นเสริมเรือด้วยเหล่าโจรปล้นสะดมที่คุณสามารถลากคอหยิบจับมาได้แทน

เหล่าโจรสลัดจ้าวทะเลเหล่านี้อาจจะดูอึดถึก (โดยเฉพาะพ่อหนุ่ม Graves) แต่คอมพ์ Bilgewater นั้นยังขาดไปซึ่งแนวหน้า (แม้ว่า Graves จะอยากทำหน้าที่นั้น) ดังนั้นขั้นตอนแรกของคุณก็คือการเพิ่มเนื้อหนังให้กับชาวแก๊ง การเพิ่มยูนิต Juggernaut หรือ Bastion เข้าไปในทีมเมื่อคุณมี Illaoi อยู่บนบอร์ด น่าจะช่วยเสริมพลังใบเรือของคุณให้สเกลไปสู่กลางเกมได้ดีขึ้น เมื่อไปถึงช่วงเลทเกม คุณก็สามารถสับเปลี่ยนลูกเรือที่คุณอยากเฉดหัวและนำ Xayah หรือ Aphelios ที่ใส่ Bilgewater Emblem เข้าไปแทนที่หากคุณสามารถหาได้—เพราะพวกเขานั้นเข้ากันได้ดีกับ Emblem นี้สุด ๆ หมายเหตุไว้ว่าถ้าคุณแยก Graves และ TF ออกจากกัน หัวใจผมก็คงสลายเลยฮะมุง

และแม้ว่าโจรสลัดกลุ่มนี้จะไม่ค่อยถูกคอกัน หรือยอมยกให้ใครกลายเป็นกัปตัน แต่เราก็ยังมี Reaver King หนึ่งเดียวผู้นี้อยู่ Gangplank คือยูนิตระดับ Legendary ที่สามารถเอาไปวางเป็นกองหน้า จุดไฟเผาศัตรูสร้างความเสียหายจริงที่สเกลตามพลังโจมตีของเขา หรือวางเป็นกองหลังที่ซึ่งเขาจะใช้ปืนพกคู่ใจเพื่อเปิดใช้งานสกิลที่มีชื่อว่า The Dreadway ได้ไวขึ้น โดยสกิลนี้จะอัญเชิญเรือของเขาพุ่งเข้าชนใส่กระดาน สร้างความเสียหายเวทมหาศาลและเสริมพลังพันธมิตรด้วยผลส้ม

คุณสามารถเลือกวาง Reaver King ในแถวหลังหรือแถวหน้าได้ตามสบาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไรเพิ่มในคอมพ์หรือคุณมีไอเทมแบบไหน ไอเทม AD จะช่วยเสริมสกิลของ Gangplank ในการจัดการแทงค์แนวหน้า แต่ไอเทม AP กลับไม่ได้ส่งผลต่อมีดดาบของเขาขนาดนั้น ดังนั้นคุณก็ควรวางเขาไว้ที่แถวหลังเพื่อให้สามารถเข้าถึงสกิลสายสเกล AP ได้ไวขึ้น Reaver King ผู้นี้ไม่ใช่แค่ราชาของเหล่าโจรสลัดเท่านั้น (อย่างน้อยก็ในเซ็ตนี้) เขายังเป็นส่วนเสริมที่ดีต่อคอมพ์เน้น AD อื่น ๆ ในช่วงท้ายเกมด้วย เพราะบัฟส้มจาก Dreadway ก่อนที่มันจะระเบิดนั้นจะมอบทั้งความเร็วโจมตีและลบล้างดีบัฟให้กับทีมของคุณ ใครจะไปคิดว่าส้มจะติดไฟได้ง่ายแบบนี้ล่ะ?!

Ixtal: 2/3/4

Ixtal นำพาเซ็ต Rise of the elements กลับมาสู่ Horizonbound อีกครั้ง ยูนิต Ixtal จะสร้างช่องสรรพธาตุขึ้นมาในแต่ละเกม ซึ่งจะช่วยเสริมพลังให้กับยูนิตที่ยืนอยู่บนนั้น ขอเชิญพบกับเหล่าประชากรของ Ixtal และมาทำความเคยชินกับพลังธาตุของพวกเขาไว้ดีกว่า:

• Milio: ระดับ 1 Invoker
• Qiyana: ระดับ 2 Rogue, Slayer
• Neeko: ระดับ 3 Bastion

เมื่อคุณบุกทะลวงจุดเปลี่ยนของ Ixtal สูงขึ้นไป คุณก็จะสามารถเข้าถึงช่องสรรพธาตุได้มากขึ้น ทว่าที่จุดเปลี่ยนสุดท้าย แทนที่จะได้ช่องสรรพธาตุช่องที่สาม คุณก็จะได้รับเอฟเฟกต์โบนัสเพิ่มเติมมาแทนที่! ช่องสรรพธาตุจะปรากฏในตำแหน่งเดียวกันและเป็นธาตุเดียวกันสำหรับทุกคนในล็อบบี้ และธาตุก็จะเหมือนกันทั้งหมดไม่ว่าคุณจะเปิดใช้งานกี่ช่องก็ตาม และสำหรับช่องต่าง ๆ เราก็มีธาตุเตรียมไว้ตามนี้:

หินผา: เมื่อเริ่มต้นการต่อสู้ แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังจะไม่ได้รับผลจากเอฟเฟกต์ CC และลดความเสียหายที่ได้รับลง 20% เป็นระยะเวลา 8 วินาที

เอฟเฟกต์โบนัส: แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังจะฮีล 550 หน่วยเมื่อโค่นล้มศัตรู

น้ำแข็ง: ครั้งแรกที่แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมแต่ละตัวมีพลังชีวิตเหลือน้อยกว่า 30% พวกเขาจะถูกห่อหุ้มโดยน้ำแข็งรักษา ไม่สามารถถูกเล็งเป้าได้และฮีล 30% จากพลังชีวิตสูงสุดภายในระยะเวลา 2 วินาที

เอฟเฟกต์โบนัส: ในระหว่างถูกแช่แข็ง ศัตรูที่อยู่ติดกันจะได้รับความเสียหายเวท 30% จากพลังชีวิตสูงสุดของพวกเขา

ไฟฟ้า: ครั้งแรกที่ศัตรูได้รับความเสียหายจากสกิลของแชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลัง พวกเขาจะถูกสตันเป็นเวลา 2 วินาที

เอฟเฟกต์โบนัส: แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังจะสตันศัตรูแต่ละตัวได้ในทุก ๆ 6 วินาทีแทน

ป่าไม้: แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังได้รับพลังชีวิตสูงสุดเพิ่มขึ้น 10% และเมื่อเริ่มต้นการต่อสู้ พวกเขาก็จะได้รับพลังชีวิตสูงสุดถาวร 20 หน่วยและขนาดตัวใหญ่ขึ้น

เอฟเฟกต์โบนัส: ในทุก ๆ 4 วินาที แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังจะได้รับพลังเวท 15 หน่วยและพลังโจมตี 15%

เปลวเพลิง: ความเสียหายจากสกิลของแชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังจะทำให้ศัตรูลุกไหม้ สร้างความเสียหายเวท 45% จากความเสียหายของสกิล และเผาพวกเขา 1% จากพลังชีวิตสูงสุดในทุกวินาทีเป็นเวลา 3 วินาที

เอฟเฟกต์โบนัส: ไฟจะสร้างความเสียหาย 90% จากความเสียหายของสกิล และเผาพลังชีวิต 2% แทน

สายลม: แชมเปี้ยนที่ถูกเสริมพลังจะได้รับความเร็วโจมตี 40% เป็นเวลา 4 วินาทีเมื่อเริ่มต้นการต่อสู้และทุกครั้งที่พวกเขาใช้สกิล

เอฟเฟกต์โบนัส: โบนัสความเร็วโจมตีจะสามารถสแตคได้และจะคงอยู่ไปจนจบการต่อสู้

หมายเหตุจากผู้พัฒนา: Ixtal ถูกปรับเปลี่ยนขนานหนักในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเข้า PBE ดังนั้นเราจึงไม่สามารถโชว์ช่องสายลมได้ นอกจากนั้นก็คาดเดาไว้เลยว่าตัวเลขภายในคุณสมบัตินี้จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนในขณะที่เราค่อย ๆ ทดสอบมันต่อไป บอกไว้ก่อนว่ามันทั้งน่าทดลองและสนุกสุด ๆ เลยล่ะ เพราะงั้นพวกเราก็แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นพวกคุณได้ลองเล่นคุณสมบัตินี้!

Vanquisher: 2/4/6

Vanquisher คือหายนะของเหล่ากองหน้า สกิลของพวกเขาสามารถติดคริติคอลได้และพวกเขาก็ยังมีโบนัสโอกาสคริติคอลและความเสียหาย โดยทั้งสองค่านี้จะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อคุณไปถึงจุดเปลี่ยนที่สูงขึ้น แต่จุดเด่นจริง ๆ ของคุณสมบัตินี้ก็คือ Vanquisher จะสร้างโบนัสความเสียหายจริงแก่ศัตรูที่มีพลังชีวิต 1600 หน่วยขึ้นไป มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้างที่จะมาทำให้ผู้เล่นคอมพ์ Bruiser ล้วนต้องร้องไห้โฮ:

• Jhin: ระดับ 1 Ionia
• Ashe: ระดับ 2 Freljord
• Darius: ระดับ 3 Juggernaut, Slayer
• Nilah: ระดับ 4 Bilgewater
• Xayah: ระดับ 4 Ionia
  

คุณอาจจะพอสังเกตเห็นคนหน้าคุ้นที่มาพร้อมสกิลใหม่เอี่ยม… โดยที่ต้องยอมแลกบางอย่าง (Deadeye) ไปในระหว่างทาง และคุณก็อาจจะสังเกตเห็นว่า Aphelios นั้นไม่ได้กลายมาเป็น Vanquisher นั่นก็เพราะพ่อหนุ่มจันทราอารมณ์บูดของเราได้ตัดสินใจโอบรับความชอบด้านปืนของเขาและถูกรับไปโดยสหายชาว Gunner—อย่าไปพูดเรื่องนั้นกับ Jhin เชียวล่ะ

Vanquisher คือกุญแจสำคัญที่จะเข้ามาช่วยให้คลาสเน้นแครี่คลาสนี้สามารถกำจัดแทงค์และเข้าถึงแถวหลังได้ ดังนั้นแม้ว่าปกติคุณจะเล่น Vanquisher 2 ในคอมพ์ Ionia ล้วน แต่การใส่ Vanquisher เพิ่มเติมลงไปในคอมพ์ Bilgewater หรือ Noxus รีโรลก็อาจจะทำให้กองหน้าของศัตรูล้มไม่เป็นท่าได้เลย และสุดท้ายเพราะ Darius ได้มาซึ่งคุณสมบัติใหม่ ตอนนี้จึงมีคอมพ์ Slow Roll เลเวล 7 สุดทรงพลังคอมพ์ใหม่เกิดขึ้นมา: Noxus 3 (Darius, Katarina หรือ Mordekaiser, Swain หรือไม่ก็ Sion), Vanquisher 2 (Ashe, Darius), Freljord 2 (Ashe, Sejuani), Bruiser 2 (Rek’Sai, Sejuani) และ Slayer 4 (Darius, Rek’Sai, Quinn, Mordekaiser) นี่คือคอมพ์ที่เน้นหนักไปที่การรีโรลตัว 3 ทอง ดังนั้นก็คอยจับตาตัวเสริมพลัง Three’s A Crowd และ Titan’s Resolve (ไอเทม) ไว้ให้ดี เพราะมันเป็นไอเทมแสนมีประโยชน์สำหรับทั้ง Darius และ Rek’Sai! 

เหล่าแชมเปี้ยน 4 ทองตัวใหม่

ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สิ่งที่เราทำสำเร็จที่สุดในช่วงอัปเดตกลางเซ็ตก็คือการสลับตัว 4 ทองหลัก ๆ ออกไป ดังนั้นเราจึงจะทำแบบเดียวกันในอัปเดตกลางเซ็ตครั้งสุดท้ายนี้โดยการสลับตัว 4 ทองออกไปทั้งหมด 5 ตัว ซึ่งมากกว่าแชมเปี้ยนระดับอื่นเป็นอย่างมาก โดย Lux, Urgot, Zeri, Gwen และ Yasuo ต้องโบกมือจากไปเพื่อเปิดทางให้ Silco, Nilah, Xayah, Mordekaiser เข้ามาแทนที่ รวมถึงตัว 4 ทองสุดโปรดของผมอย่าง Fiora ก็กลับมาด้วย! ดังนั้นก็มาทำความรู้จักเหล่าแชมเปี้ยนตัวโปรดที่จะโผล่มาให้ 2 ดาวในตอนเลเวล 7 กัน (คนดวงดีนี่มันดวงดีจริง ๆ)

• Silco: Zaun, Sorcerer

Silco กลับมาอีกครั้งเพื่อย้ำเตือนทุกคนว่าพลังที่แท้จริงนั้นไม่ได้เกิดจากคนที่แข็งแกร่งที่สุด รวดเร็วที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่เป็นคนที่ดวงดีที่สุดต่างหาก สกิลใหม่ของเขา Undercity Tactics จะโยนขวดยาไปยังศัตรูใกล้เคียง ทำให้ช่องที่อยู่ติดกันปนเปื้อนสารชิมเมอร์เป็นเวลาชั่วครู่ ศัตรูที่อยู่ในโซนติดเชื้อจะได้รับความเสียหายในทุกวินาที ในขณะที่พันธมิตรจะได้รับผลฮีลแทน

Silco นั้นถนัดในการต่อสู้กับ (หรือเล่นร่วมกับ) คอมพ์เน้นตัวตีใกล้ที่สามารถใช้งานผล AOE ของชิมเมอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเขาก็ยังชอบพลังเวทเป็นอย่างมากด้วย ดังนั้น Sorcerer จึงเป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับเขาแบบสุด 

• Nilah: Bilgewater, Vanquisher

คงเคยได้ยินสำนวน “เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก” และถ้าอย่างนั้นเคยได้ยินคำว่า “เหมือนตัดน้ำด้วยดาบไร้ลักษณ์” หรือเปล่า? เพราะ Nilah ผู้นี้จะโจมตีปกติออกไปเป็นรูปกรวยและสร้างความเสียหาย AOE ในขณะที่สกิลของเธอ Formless Blade จะทำให้เธอได้รับโล่ป้องกันและพุ่งไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัย (สำหรับเธอ) และได้รับความเร็วโจมตีที่สแตคซ้อนทับกันได้ (สำหรับทุบศัตรู)

Nilah นั้นเข้ากันได้ดีสุด ๆ กับทั้งสองคุณสมบัติของเธอ Bilgewater จะช่วยมอบความเสียหายแบบดีเลย์ ในขณะที่ Vanquisher จะช่วยให้เธอกำจัดแนวหน้าได้ง่ายขึ้น และเนื่องจากเธอเป็นแครี่ตีใกล้ เธอจึงอ่อนแอต่อ CC เป็นอย่างมาก ดังนั้นหากเธอโดน CC และตายก่อนที่จะได้เปลี่ยนตำแหน่งตัวเอง ไฟต์นั้นของคุณก็คงจะดิ่งลงทะเลเป็นแน่แท้ เพราะงั้นก็อย่าลืมมอบทั้งไอเทมโจมตีและป้องกันให้กับ Nilah โดยมี Bloodthirster เป็นไอเทมหลักในการเอาตัวรอดของเธอด้วย

• Xayah: Ionia, Vanquisher

Xayah คือชาววาสทาญ่าสุดแข็งแกร่งและเป็นอิสระ ผู้ขออยู่ห่างจาก Rakan สักพักเพื่อจะได้กางปีกบินด้วยตัวเองเสียที และก็ต้องบอกว่าเธอกำลังไปได้สวยเลยล่ะด้วยสกิลใหม่ของเธออย่าง Featherstorm ซึ่งจะเรียกขนนกด้านหลังศัตรู ทะลุผ่านตัวพวกเขา และสร้างความเสียหายกายภาพพร้อมทั้งลดเกราะลง

Xayah คือแถวหลังที่มีเอฟเฟกต์ลดเกราะติดตัว เธอแค่ต้องร่ายสกิลเพื่อใช้งานมันก็เท่านั้น การสวมใส่ทั้งไอเทมความเร็วโจมตีและพลังโจมตีจะช่วยให้เธอสามารถฉีกกระชากขนนกและลดเกราะศัตรูได้อย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นแทงค์หรือแถวหลังก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกไว้เกี่ยวกับ Xayah ก็คือ สกิลของเธอจะใช้โดนยูนิตที่อยู่ติดมุมค่อนข้างยาก จำไว้ด้วยล่ะ

• Mordekaiser: Noxus, Slayer

Mordekaiser โจมตีได้อย่างรุนแรงด้วยการโจมตีที่สเกลไปกับพลังเวท และเขาก็ยิ่งโจมตีได้หนักขึ้นไปอีกเมื่อสกิลของเขาเปิดใช้งาน เพราะมันจะมอบโล่ป้องกันและเพิ่มระยะโจมตีให้กับเขาหนึ่งช่องในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในระหว่างช่วงนี้ หากเขาสังหารศัตรูได้ เขาจะช่วงชิงพลังโจมตี พลังเวท เกราะ ต้านทานเวท และพลังชีวิตของศัตรูตัวนั้นมาจนจบการต่อสู้

Mordekaiser ได้รับประโยชน์จากทั้งไอเทม AP และไอเทมป้องกัน นอกจากนั้นการเปิดใช้งาน Slayer ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Mordekaiser สามารถรักษาพลังชีวิตเพื่อหวดศัตรูต่อไปได้

• Fiora: Demacia, Challenger

แชมเปี้ยนโปรดของแฟน ๆ จากเซ็ต Gizmos & Gadgets ตอนนี้ Fiora จบการศึกษาจากสถาบัน (ฟันดาบ) เป็นที่เรียบร้อย และก็พร้อมแล้วที่จะสร้างเกียรติยศให้กับตระกูล Laurent ผ่านการเอาชนะผู้ท้าชิงที่มาขวางทาง สกิลของเธอ Blade Waltz ทำให้เธอไม่สามารถถูกเล็งเป้าในขณะที่เธอพุ่งโจมตีจุดอ่อนของเป้าหมาย การโจมตีแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายกายภาพที่สเกลจาก AD และโบนัสความเสียหายจริงที่สเกลจาก AP นอกจากนั้นเธอยังฮีลจากส่วนหนึ่งของความเสียหายที่ทำได้ด้วย และหากเป้าหมายของเธอตาย ซึ่งเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว เธอก็จะเปลี่ยนไปยังเป้าหมายที่อยู่ใกล้ที่สุด

ในฐานะแครี่ตีใกล้ที่มีการสเกลและเครื่องมือเอาตัวรอดชั้นยอด การใส่ไอเทมทรงพลังต่าง ๆ ให้กับ Fiora จะทำให้เธอเปลี่ยนสนามประลองกลายเป็นสนามนอนเล่นได้เลยล่ะ นอกจากนั้นไอเทมแห่งแสงจากคุณสมบัติ Demacia ก็น่าจะเข้ากันได้ดีสุด ๆ กับเธอด้วย Jarvan IV และ Sona คือตัวเสริมชั้นดีเพื่อช่วยยื้อเวลาให้ Fiora ได้สร้างความเสียหายผ่านทั้ง CC และบัฟความเร็วโจมตีสุดแสนมีประโยชน์ เมื่อผ่านพ้นช่วง Demacia 3 ไป ก็อย่าลืมมองหา Challenger เพิ่มเข้าไปในคอมพ์ของคุณ แค่อย่ายึดติดกับคุณสมบัติของ Fiora มากเกินไปก็พอ เพราะการเพิ่มแชมเปี้ยนอรรถประโยชน์อย่าง Shen หรือแม้แต่ Silco ก็สามารถช่วยเสริมคอมโบใช้งาน Fiora เป็นแครี่หลักของคุณได้มากมายเช่นกัน

เปิดตัวใน TFT เป็นครั้งแรก: Milio และ Naafiri

ขอเสียงปรบมือดัง ๆ ต้อนรับ Milio และ Naafiri เข้าสู่ Convergence โดยทั้งสองจะก้าวเข้าสู่ TFT เป็นครั้งแรกในฐานะตัวหลักของคอมพ์รีโรล คอมพ์ Ixtal หรือแม้แต่คอมพ์เลทเกมอย่าง Darkin Aatrox

ในฐานะตัว 1 บาท Milio (Invoker, Ixtal) ถือเป็นตัวถือไอเทม AP ชั้นเยี่ยม และยังเป็นตัว CC แสนมีประโยชน์ในช่วงท้ายเกมในกรณีที่คุณยังอยากใช้งานช่องสรรพธาตุจาก Ixtal อีกด้วย Milio และคุณสมบัติของเขาจะทำให้คอมพ์รีโรลราคาถูกสามารถเริ่มต้นได้อย่างไหลลื่น ผ่านการช่วยเสริมพลังแก่แครี่ 1 บาทด้วยพลังธาตุของ Ixtal (และทัศนคติอันดีของ Milio)! ทว่าราชาราชินีที่แท้จริงของการรีโรลนั้นย่อมต้องตกเป็นของ Naafiri (Challenger, Darkin, Shurima) ผู้ที่จะนำทั้งฝูงไปพร้อมกับคอมพ์รีโรลของเธอ ผมขอตั้งชื่อให้มันว่าคอมพ์ “ตัวเดียวหัวหาย หมาหมู่สู้ตาย”

ทำการ Slow-roll ที่เลเวล 6 และเก็บสะสมดอกเบี้ยจนเต็มผ่านการใช้งานตัวเสริมพลังตำนานอย่าง Tahm Kench หรือ Lee Sin เพื่อ 3 ดาว Naafiri และ Warwick และหวังว่าจะได้เจอ Nasus หรือ Fiora ไปในระหว่างทาง คอยใส่ไอเทม AD ให้กับ Naafiri และใส่ไอเทมป้องกันให้กับ Warwick/Nasus และหากคุณมีไอเทม AP เยอะเกินไป ก็ให้สลับ Fiora ออกและแทนที่ด้วย Kai'sa เพื่อจะได้ใช้งานพลังเพิ่มเติมจากไอเทมเหล่านั้นได้ สกิลของ Naafiri จะโจมตีสร้างความเสียหายกายภาพใส่เป้าหมายเดี่ยว ซึ่งจะทำคอมโบกับสกิลติดตัวอาวุธ Darkin ของเธอ อาวุธ Darkin ของเธอ Darkin Dagger จะเรียกเพื่อนร่วมฝูงของเธอมาโจมตีศัตรูในแต่ละครั้งที่เธอใช้สกิล สร้างความเสียหายเพิ่มเติมและส่งผลฮีลแก่ผู้ถือครอง Darkin Dagger และสกิลเป้าหมายเดี่ยวนั้นสเกลได้ดีสุด ๆ กับระดับดาว ดังนั้นก็อย่าลืมอัปดาวเธอให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อที่จะได้ชนะต่อไป!

เมื่อคุณอัป Naafiri เป็น 3 ดาวได้แล้ว ก็ให้เก็บทองต่อไป เพราะตอนนี้คุณจะต้องรีบเพิ่มเลเวลเพื่อขึ้นไปหา Aatrox โดยเขาผู้นี้จะเข้ามาเสริมพลังเอฟเฟกต์อาวุธ Darkin ของทั้งตัวเองและของ Naafiri การใช้งานยูนิต Darkin ทั้งสองตัวจะช่วยเสริมสกิลติดตัวของอาวุธเป็นอย่างมาก และทำให้คอมพ์รีโรลน้องหมาของคุณสามารถสเกลไปสู่เลทเกมได้ในที่สุด!

ประตูมิติภูมิภาค: Bilgewater

เดินทางเข้าสู่ Bilgewater และเตรียมพร้อมที่จะร่ำรวยเหมือนดั่งจอมโจรราชาโจรสลัด เพราะประตูมิติของ Bilgewater นั้นล้วนเกี่ยวกับการซื้อขายทั้งสิ้น มาดูกันดีกว่าว่าเราจะได้อะไรบ้างจากโปรโมชันห้านิ้ว (หรือหนึ่งมือตะขอ) ในร้านค้าท้องถิ่นแถวนี้:

ตลาดของ Finn

รอบ 3-7 จะถูกแทนที่ด้วยการไปเยี่ยมเยือนนักแลกเปลี่ยนสินค้าชาว Bilgewater นามว่า Finn ผู้คับคั่งไปด้วยไอเทมสมบูรณ์ วัตถุโบราณ ไอเทมซัพพอร์ต หรือไอเทมแห่งแสงมากมาย และคุณก็สามารถเลือกไปใช้ได้หนึ่งชิ้นแบบฟรี ๆ!

ท่าเรือเพชฌฆาต

ที่ท่าเรือเพชฌฆาต ในตอนเริ่มต้นแต่ละด่าน คุณจะได้รับแต้มสุ่มใหม่ร้านค้าฟรีเท่ากับตัวเลขด่านนั้น ๆ บวกด้วย 1! แต้มเหล่านี้จะคงอยู่แค่รอบเดียวเท่านั้น เพราะงั้นก็รีบอัปดาวและขัดเกลาคอมพ์กันโดยไว!

แร็ตทาวน์

แร็ตทาวน์ของจริงนั้นดูดีกว่าชื่อของมันนะ แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก เริ่มต้นตั้งแต่ด่าน 2 Lucky Shop จะปรากฏตัวแบบสุ่มในตอนเริ่มต้นรอบเป็นจำนวนหนึ่งครั้งในแต่ละด่าน โดยร้านค้านี้จะประกอบด้วยยูนิตที่อยู่ในคุณสมบัติที่เปิดใช้งานอยู่ของคุณ ไม่มีส่วนลดอะไรหรอกนะ แต่แค่นี้ก็น่าจะประหยัดแต้มสุ่มไปได้เยอะแล้วใช่ไหมล่ะ

Ryze, Realm Warp: Bilgewater

การเดินทางไปสู่ภูมิภาคใหม่ก็หมายถึงสกิลใหม่ของ Ryze ใน Bilgewater Ryze จะเปิดประตูมิติเพื่ออัญเชิญหีบสมบัติขนาดยักษ์ลงมาจากฟากฟ้าใส่กลุ่มศัตรูที่ใหญ่ที่สุด สร้างความเสียหายเวทแก่ศัตรูภายในระยะสองช่อง ขนาดของหีบสมบัติจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนทองที่คุณมี ดังนั้นก็รีบเก็บเงินเข้าไว้เพื่อจะได้ทับศัตรูกันให้แบนไปเลย

นอกจากนั้นการโจมตีโดนศัตรูแต่ละตัวก็มีโอกาสที่จะดรอปสมบัติและดรอปทอง และหากสกิลนี้สังหารศัตรูได้ โอกาสก็จะสูงขึ้น เพราะยังไงที่นี่ก็คือ Bilgewater เราสังหารแย่งชิงกันเป็นปกติอยู่แล้ว 

ประตูมิติภูมิภาค: Ixtal

ได้เวลาเดินเล่นไปในป่าของ Ixtal และพบปะเพื่อนใหม่ไปในระหว่างทาง เพราะประตูมิติเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันธ์ (ยกเว้นก็แต่ชุมชนคาร์ดินัล)

แม่น้ำอสรพิษ

ใครชอบพิมพ์แชทคุยก็เตรียมตัวไว้ให้ดีเลย! เพราะแทนที่จะเป็นรอบวงล้อร่วมแบบปกติ ตอนนี้ทุกคนจะได้โหวตว่าทั้งล็อบบี้ควรได้โบนัสอะไร! จากนั้นก็รับ Component Anvil ไปด้วยหลังจากจบแต่ละการโหวตแล้ว

อิกซาโอคาน

ในประตูมิตินี้ ทุกคนจะเชิดชูผู้เล่นรีโรลกันสุด ๆ! เพราะในทุกครั้งที่ผู้เล่นอัปดาวยูนิตได้ 20 ครั้ง ผู้เล่นทั้งหมดจะได้รับสมบัติสุดแสนมีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ชุมชนคาร์ดินัล

เมื่อความหลากหลายใน TFT เพิ่มมากขึ้น เราก็เริ่มเห็นถึงความต้องการของผู้เล่นต่อประตูมิติที่เรียบง่ายรวมถึงตัวเสริมพลังระดับ Prismatic (ห้องทำงานของ Jayce และมหาวิทยาลัยประจำเมืองคือสองประตูมิติที่ถูกเลือกมากที่สุด) ดังนั้นแทนที่จะมอบอะไรแปลกประหลาดเพิ่มเติมให้กับ Ixtal เราจึงจะมอบสิ่งที่ผู้เล่นดูจะชื่นชอบให้ผ่านชุมชนคาร์ดินัล หรือก็คือประตูมิติที่จะมอบตัวเสริมพลังระดับ Prismatic, Gold และ Silver ให้กับคุณในทุกครั้ง

Ryze, Realm Warp: Ixtal

ใน Ixtal Ryze จะสร้างพุ่มหนามขึ้นมาปกคลุมพื้นดินรอบ ๆ เป้าหมายปัจจุบัน หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เขาจะสร้างความเสียหายเวทแก่ศัตรูภายในระยะ และกระแทกศัตรูที่อยู่ในจุดศูนย์กลางให้ลอยขึ้น พันธมิตรที่ถูกห้อมล้อมด้วยหนาม (ภูติไม้?) จะได้รับเกราะและต้านทานเวทเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ

ประตูมิติภูมิภาค: Freljord

เรายังมีอีกหนึ่งประตูมิติภูมิภาคที่อยากจะพูดถึงเพื่อไฮไลท์ให้เห็นถึงการรีเวิร์คไอเทมแบบใหม่ของเรา!

โพรงแห่งวาลาร์

ในโพรงแห่งวาลาร์ คุณจะได้รับ Item Anvil ในด่าน 2-3 และ Support Anvil ในด่าน 3-3 ว่าแต่อะไรคือ Support Anvil งั้นหรอ? อ่านต่อไปได้เลย!

อัปเดตไอเทม

Horizonbound จะนำพาเราไปสู่อนาคตของ TFT โดยการเพิ่มสองภูมิภาคอันเป็นที่รักและแชมเปี้ยนใหม่หลายตัวเข้าสู่เซ็ตที่เรารักมากที่สุดตั้งแต่มีมา แต่สำหรับ Horizonbound เราก็ไม่ได้จะโฟกัสอยู่แค่อัปเดตกลางเซ็ตเท่านั้น เรายังจะเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตขนานใหญ่ให้กับระบบไอเทมของเรา ซึ่งจะทำให้มันอยู่ในจุดที่ดีขึ้นในอีกหลาย ๆ เซ็ตที่กำลังจะตามมา สิ่งนี้จะประกอบด้วยไอเทมใหม่ 6 ชิ้น ไอเทมที่ถูกปรับเปลี่ยน 3 ชิ้น คลาสใหม่อย่างไอเทมซัพพอร์ต การอัปเดตไอเทมวัตถุโบราณ (หรือที่รู้จักในชื่อไอเทม Forge ของ Ornn) และอื่น ๆ อีกมากมาย! แต่ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ ผมก็ขอแนะนำ Tim “Riot Truexy '' Jiang นักออกแบบผู้ที่เพิ่งจะมาเข้าร่วมกับเราจากทีม League of Legends และนำดีไซน์การสร้างสรรค์ไอเทมของเขามาสู่ TFT! (Tim คือผู้สร้าง Axiom Arc, Fimbulwinter และ Shurelya’s Battlesong) ต่อจากนี้จะเป็นโชว์ของ Tim แล้ว:

ทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไอเทม?

ไอเทมคือหนทางสำคัญที่สุดในการเพิ่มพลังให้กับแชมเปี้ยนใน TFT หนึ่งในช่วงเวลาที่น่าพึงพอใจที่สุดในเกมก็คือการได้ชุดชิ้นส่วนไอเทมแสนสมบูรณ์แบบเพื่อใส่ให้กับแครี่ของคุณ ในทางตรงกันข้าม ผู้เล่น TFT หลายคนก็ต้องประสบพบเจอกับประสบการณ์ Mortdog หรือก็คือความโชคร้ายเรื่องชิ้นส่วนไอเทม ที่ทำให้คุณไม่สามารถใส่ไอเทมใด ๆ ให้กับแชมเปี้ยนที่อยากจะเล่นได้

หนึ่งในก้างขวางคอใหญ่ของเรื่องนี้ก็คือไอเทมซัพพอร์ตต่าง ๆ อย่างเช่น Zephyr และ Zeke’s Herald เพราะแม้ว่าไอเทมเหล่านี้จะทรงพลังเป็นอย่างมากในช่วงท้ายเกม แต่พวกมันก็ไม่ได้น่าดึงดูดขนาดนั้นในช่วงด่าน 2 หรือ 3 ซึ่งก็ส่งผลให้ส่วนผสมของมันไม่น่าสนใจไปด้วย (Belt, Cloak, Tear) ใน Horizonbound เราจะย้ายไอเทมซัพพอร์ตทั้งหลายเข้าไปอยู่ในไอเทมประเภทใหม่ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ และเติมเต็มช่องว่างนั้นด้วยของเล่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มพลังให้กับแชมเปี้ยนได้หลากหลายขึ้น

นี่คือเป้าหมายหลักสองอย่างของเราสำหรับการรีเวิร์คไอเทมใน Horizonbound:

• ทำให้การจัดหมวดหมู่ไอเทมเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
• มอบไอเทมที่ใช้งานได้หลากหลายให้กับแชมเปี้ยนแต่ละคลาส เพื่อสร้างให้เกิดระดับพลังที่กว้างขวางมากขึ้น

หมวดหมู่ไอเทม

สำหรับการอัปเดตไอเทมที่จะมาถึง เราจะอัปเดตหมวดหมู่ไอเทมของเราตามนี้:

ไอเทมหลัก: เหล่านี้คือไอเทมมาตรฐานที่สร้างขึ้นได้จากชิ้นส่วนไอเทมพื้นฐาน โดยแต่ละชิ้นจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มพลังให้กับผู้สวมใส่ในทิศทางน่าตื่นเต้นต่าง ๆ

ไอเทมแห่งแสง: เวอร์ชันอัปเกรดของไอเทมหลัก

ไอเทมวัตถุโบราณ: ชื่อเก่าคือ “ไอเทมของ Ornn” ไอเทมเหล่านี้คือไอเทมที่ไม่สามารถสร้างได้ ซึ่งจะมาพร้อมกับส่วนผสมและคอมโบไอเทมแสนน่าตื่นเต้นมากมายอย่าง Manazane และ Trickster’s Glass

ไอเทมซัพพอร์ต: คลาสไอเทมใหม่ของเราซึ่งประกอบด้วยไอเทมที่ไม่สามารถสร้างได้ซึ่งจะเน้นไปที่การสนับสนุนทีมและผลกระทบต่าง ๆ ไอเทมในคลาสนี้จะประกอบด้วยไอเทมเก่าอย่างเช่น Shroud of Stillness และ Locket of the Iron Solari และก็ยังมีบรรดาไอเทมใหม่มากมายที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มชิ้นส่วนที่ขาดหายไปภายในทีมของคุณด้วย ไอเทมซัพพอร์ตทั้งหมดจะมอบพลังชีวิตให้ 250 หน่วย และจะมีความทรงพลังมากกว่าเวอร์ชันไอเทมหลักที่พวกมันเคยเป็น นอกจากนั้นเราก็ยังจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อปรับให้ Shroud of Stillness และ Zephyr ไม่สามารถติดตั้งในระหว่างต่อสู้ได้อีกต่อไป ชิบ… เอ้ย ผมหมายถึงให้ตายเถอะ!

เพิ่มตัวเลือกไอเทมสำหรับคลาสต่าง ๆ

ด้วยการมาถึงของไอเทมใหม่ใน Horizonbound ผู้เล่นก็น่าจะสามารถค้นเจอคอมโบไอเทมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มพลังให้กับแทงค์ แครี่ หรือตัวซัพพอร์ตของพวกเขาได้จากชิ้นส่วนไอเทมที่หลากหลาย และไอเทมเหล่านี้ก็ยังจะมอบค่าสถานะที่กว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่อให้เกิดคอมโบที่น่าสนใจและการใช้งานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย

ด้านล่างคือรายชื่อไอเทมทั้งหกที่จะถูกสลับเข้ามาเป็นไอเทมหลัก (ที่สามารถสร้างได้) บอกไว้ก่อนว่าตัวเลขบนไอเทมเหล่านี้ยังไม่ใช่เวอร์ชันสุดท้าย เพราะเรายังคงทดสอบมันอยู่ในขณะนี้

Adaptive Helm: Tear และ Negatron Cloak

มานา: 15 หน่วย

ต้านทานเวท: 30 หน่วย

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น: ผู้สวมใส่จะได้รับโบนัสค่าสถานะขึ้นอยู่กับตำแหน่งเริ่มต้นบนกระดาน

สองแถวแรก: พลังเวท 15 หน่วย เกราะและต้านทานเวท 25 หน่วย

สองแถวหลัง: พลังเวท 15 หน่วย และได้รับมานา 15 หน่วยในทุก ๆ 3 วินาที

Adaptive Helm คือไอเทมแสนยืดหยุ่นสำหรับแทงค์สายสเกลเวท ไฟเตอร์สาย AP รวมถึงแชมเปี้ยนที่อยากใช้สกิลบ่อย ๆ ทั้งหลาย เราคาดว่าไอเทมนี้จะถูกใช้ตั้งแต่ Swain ไปจนถึง Neeko หรือแม้แต่ Ahri เพราะมันช่างยืดหยุ่นจริง ๆ สมชื่อเลยล่ะ!

Nashor’s Tooth: Recurve Bow และ Giant’s Belt

พลังเวท: 30 หน่วย

ความเร็วโจมตี: 10%

พลังชีวิต: 150 หน่วย

หลังจากร่ายสกิล จะได้รับความเร็วโจมตี 40% เป็นเวลา 5 วินาที

Nashor’s Tooth คือไอเทมแสนน่าสนใจที่มีกรณีใช้งานได้หลากหลาย มันจะดีที่สุดเมื่อใช้กับแชมเปี้ยนที่สามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ได้เต็มที่ ดังนั้น Nashor’s Tooth จึงจะกลายเป็นไอเทมที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามแต่ละแชมเปี้ยน แนะนำให้ใช้คู่กับแหล่งฟื้นฟูมานาอื่น ๆ เพื่อช่วยรีเฟรชบัฟความเร็วโจมตีนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ

Evenshroud: Negatron Cloak และ Giant’s Belt

พลังชีวิต: 150 หน่วย

ต้านทานเวท: 20 หน่วย

สะบั้นศัตรู 50% (ลดเกราะ) ภายในระยะ 2 ช่อง

ในช่วง 10 วินาทีแรกของการต่อสู้ จะได้รับเกราะและต้านทานเวท 25 หน่วย

แม้ว่าชื่อไอเทมอาจจะยังไม่แน่นอน แต่เอฟเฟกต์นั้นชัวร์แล้ว ไอเทมนี้จะทำให้แทงค์ของคุณสามารถช่วยลดเกราะให้กับแครี่แนวหลังได้ มันจะใช้ได้ดีที่สุดในคอมพ์เน้น AD และจะดียิ่งกว่าถ้าคุณสามารถรักษาชีวิตของผู้สวมใส่ไปได้เรื่อย ๆ เพื่อสะบั้นศัตรูต่อไป!

Crownguard: Needlessly Large Rod และ Chain Ves

พลังเวท: 15 หน่วย

เกราะ: 30 หน่วย

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น: ได้รับโล่ป้องกันเป็นจำนวนเท่ากับ 35% ของพลังชีวิตสูงสุดเป็นเวลา 8 วินาที

เมื่อโล่ถูกทำลายหรือหมดเวลา จะได้รับพลังเวทเพิ่มเติม 40 หน่วย

Crownguard ไม่ใช่แค่ไอเทมแนะนำที่ Choncc ขโมยมาจาก Gangplank ในภาพอาร์ตกลางเซ็ตของเราเท่านั้น แต่มันยังเป็นไอเทมชั้นยอดสำหรับแนวหน้าสาย AP ที่มีพลังชีวิตขั้นสูง หรือแม้แต่แครี่ AP ที่มักจะถูกเบิร์สตายก่อนที่จะได้ทำอะไร บอกเลยว่า Crownguard นั้นเข้ากันได้ดีมากกับแชมเปี้ยนอย่าง Neeko และ Mordekaiser

Sterak’s Gage: BF Sword และ Giant’s Belt

พลังชีวิต: 300 หน่วย

พลังโจมตี: 20%

หนึ่งครั้งต่อการต่อสู้เมื่อพลังชีวิตเหลือ 50% จะเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดขึ้น 25% และได้รับพลังโจมตี 30% ไปจนจบการต่อสู้

Darius แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ลองใช้ไอเทมชิ้นนี้

Night Harvester: Sparring Gloves และ Chain Vest

พลังเวท: 25 หน่วย

เกราะ: 25 หน่วย

โอกาสคริติคอล: 20%

สร้างโบนัสความเสียหาย 15% เพิ่มขึ้น 15% เมื่อพลังชีวิตสูงสุดต่ำกว่า 60%

ยิ่งเสี่ยงมากยิ่งได้มาก Night Harvester คือเพื่อนรักของ Jeweled Gauntlet เพราะมันทั้งมอบ AP และโอกาสคริติคอลให้ ไอเทมชิ้นนี้จะใช้งานได้ดีที่สุดเมื่อผู้สวมใส่สามารถรอดชีวิตจากความเสียหายส่วนหนึ่งและสวนกลับไปได้ ถ้า Gwen ยังไม่ได้จากไป… เธอก็คงจะชอบไอเทมชิ้นนี้สุด ๆ!

ไอเทมด้านบนนี้จะเข้ามาแทนที่ Zz’rot Portal, Zephyr, Shroud of Stillness, Zeke’s Herald, Chalice of Harmony และ Locket of the Iron Solari ในฐานะไอเทมที่สร้างได้ แต่ไอเทมที่กล่าวมานี้ก็ยังจะไม่จากไปไหนแค่ย้ายไปเป็นไอเทมซัพพอร์ตแทน และแน่นอนว่าไอเทมด้านบนนี้ก็จะมีเวอร์ชันไอเทมแสงเป็นของตัวเองด้วย แต่บางอย่างก็ให้คุณไปเห็นเองดีกว่านะ และสุดท้ายนี้เราก็จะย้ายไอเทม Shimmerscale ส่วนหนึ่งเข้าไปอยู่ในไอเทมวัตถุโบราณ และเพิ่มไอเทมซัพพอร์ตใหม่เข้ามาแทนที่

พวกเราตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ที่พวกคุณคิดขึ้นมาได้ผ่านทั้งไอเทมใหม่และการอัปเดตกลางเซ็ตในครั้งนี้ และก็แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เจอพวกคุณในกระดานเกมจัดอันดับตั้งแต่วันแรก!

Horizonbound คืออัปเดตกลางเซ็ตครั้งสุดท้ายของเราที่จะเปิดให้เล่นในวันที่ 13 กันยายนสำหรับเกือบทุกภูมิภาค ดังนั้นเราจึงตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ส่งมอบการอัปเดต QoL ครั้งใหญ่แก่ระบบไอเทมโดยรวมของ TFT นอกเหนือจากการอัปเดตแชมเปี้ยน ประตูมิติ และพ่อหนุ่ม Gangplank ในครั้งนี้ แต่นั่นไม่ใช่แค่อย่างเดียวที่เราเตรียมไว้ให้เท่านั้น เพราะเรายังมีบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนาคตที่จะไม่มีอัปเดตกลางเซ็ต รวมถึงของตกแต่งใหม่จาก Horizonbound ที่กำลังรออยู่ด้วย!